หากคุณกำลังมีอาการภูมิแพ้ หรือคัดจมูกบ่อย ๆ โดยไม่ทราบสาเหตุ อาจเป็นเพราะไรฝุ่นคือศัตรูตัวร้ายที่มองไม่เห็น แต่แฝงตัวอยู่ในบ้านของคุณก็เป็นได้ เพราะไรฝุ่น คือแมลงขนาดเล็กที่มักสะสมอยู่ตามที่นอน หมอน พรม หรือเฟอร์นิเจอร์ที่มีผ้าเป็นส่วนประกอบ เมื่อสิ่งสกปรกและฝุ่นละอองลอดเข้าไปในเส้นใย จะปล่อยสารก่อภูมิแพ้ออกมา จนทำให้คุณเกิดอาการระคายเคือง ผื่นคัน น้ำมูกไหล ไปจนถึงอาการแพ้ที่รบกวนชีวิตประจำวัน
วันนี้เราจะมาแชร์ วิธีกำจัดไรฝุ่นที่ได้ผลจริง เพื่อช่วยลดอาการแพ้และสร้างสภาพแวดล้อมที่สะอาด ปลอดภัยต่อสุขภาพของคุณและคนในครอบครัว
ทำความรู้จัก ‘ไรฝุ่น’ ต้นเหตุหลักของอาการภูมิแพ้
ไรฝุ่น เป็นแมลงขนาดเล็กมากที่ไม่สามารถมองเห็นได้ด้วยตาเปล่า อยู่ในตระกูลเดียวกับเห็บและแมงมุม เป็นสิ่งมีชีวิตตัวเล็กที่กินเศษผิวหนังซึ่งหลุดร่วงจากร่างกายมนุษย์เป็นอาหาร และมีอายุยาวนานถึง 4 เดือน ไรฝุ่นเป็นหนึ่งในสาเหตุสำคัญของโรคภูมิแพ้ เพราะมูลและซากของไรฝุ่นมีโปรตีนที่กระตุ้นให้เกิดปฏิกิริยาภูมิแพ้ได้ง่าย และทำให้เกิดอาการต่าง ๆ เช่น จาม น้ำมูกไหล คันจมูก อาการหอบหืด และผื่นคันตามผิวหนัง
สาเหตุของการเกิดไรฝุ่น
แม้ไรฝุ่นจะเป็นสิ่งมีชีวิตขนาดเล็กที่มองไม่เห็นด้วยตาเปล่า แต่ก็สามารถเติบโตและแพร่พันธุ์ได้อย่างรวดเร็ว หากสภาพแวดล้อมภายในบ้านเอื้อต่อการดำรงชีวิตของมัน และนี่คือสาเหตุหลักที่ทำให้ไรฝุ่นเจริญเติบโตในบ้าน
- อุณหภูมิระหว่าง 25-30 องศาเซลเซียส ซึ่งเป็นอุณหภูมิที่ไรฝุ่นเติบโตได้ดี
- ฝุ่นและเศษอาหารเป็นแหล่งอาหารของไรฝุ่น
- ขนสัตว์ อุจจาระ และปัสสาวะเป็นแหล่งเพาะเชื้อของไรฝุ่น
- ฝุ่นละอองในอากาศและมลพิษที่เข้ามาในบ้านผ่านหน้าต่างและประตู
- ผ้าห่มหนาและขนสัตว์ที่อยู่อาศัยและแหล่งสะสมของไรฝุ่น
ติดตั้งเครื่องฟอกอากาศ ดีไซน์มินิมอล คุณภาพดีจาก Venz ที่นี่
รู้ก่อนสาย! สัญญาณเตือนว่าบ้านคุณมีไรฝุ่น
หลายคนอาจไม่รู้ว่าปัญหาภูมิแพ้หรืออาการเจ็บป่วยเล็ก ๆ น้อย ๆ ในชีวิตประจำวัน อาจมีต้นเหตุมาจากไรฝุ่นที่ซ่อนตัวอยู่ในบ้าน หากคุณเริ่มมีอาการบางอย่างซ้ำ ๆ นั่นอาจเป็นสัญญาณเตือนว่าถึงเวลาต้องจัดการไรฝุ่นแล้ว
- อาการภูมิแพ้ เช่น จาม คัดจมูก น้ำมูกไหล ผื่นคันตามผิวหนัง หรือหอบหืด
- คุณภาพการนอนหลับแย่ลง หลับยาก กระสับกระส่าย ตื่นมาแล้วปวดเมื่อยตามร่างกาย
- มีกลิ่นอับในห้อง ความชื้นสูง หรือมีเชื้อราขึ้นตามซอกมุม
- ปริมาณฝุ่นละอองในห้องสูงโดยเฉพาะผ้าม่านหรือพื้นห้อง
- ป่วยบ่อยขึ้น โดยเฉพาะเด็กเล็กและผู้สูงอายุ
จุดที่พบไรฝุ่นมากที่สุดในบ้าน
- เครื่องนอน เช่น ที่นอน หมอน ผ้าห่ม ผ้าปูที่นอน
- เฟอร์นิเจอร์ที่มีผ้า เช่น โซฟา เก้าอี้บุผ้า ผ้าคลุม พรม ผ้าม่าน และตุ๊กตา
- บริเวณที่มีความชื้นสูง เช่น ห้องน้ำ ห้องครัว หรือพื้นที่ที่ไม่มีการระบายอากาศดี
5 วิธีกำจัดไรฝุ่น ลดอาการคัน ปัญหาสุขภาพใหญ่ที่ต้องใส่ใจ
ไรฝุ่นไม่ได้เป็นเพียงสาเหตุที่ทำให้เกิดอาการคัดจมูกหรือจามบ่อย แต่ยังเป็นตัวการสำคัญที่กระตุ้นโรคภูมิแพ้และปัญหาสุขภาพเรื้อรัง การกำจัดไรฝุ่นอย่างถูกวิธีจึงเป็นสิ่งจำเป็นที่ไม่ควรมองข้าม
1. ทำความสะอาดเครื่องนอน
ถึงแม้ว่า การทำความสะอาดเครื่องนอน จะไม่ได้กำจัดไรฝุ่นได้ทั้งหมด แต่ถ้าหากคุณซักเครื่องนอนอย่างถูกวิธี ก็จะช่วยให้มูลไรฝุ่นลดลงได้มากถึง 98% เลยทีเดียว
- ผ้าปูที่นอน ผ้าห่ม ซักด้วยน้ำร้อนอุณหภูมิมากกว่า 60 องศาเซลเซียส สัปดาห์ละ 1-2 ครั้ง
- ปลอกหมอน เปลี่ยนและซักทุกสัปดาห์โดยใช้น้ำร้อน และอบด้วยความร้อนสูง
- ที่นอน หมอน และฟูก ใช้เครื่องดูดฝุ่นที่มีฟิลเตอร์ HEPA ดูดทุก 1-2 สัปดาห์
- ผ้าขนหนู ตากให้แห้งสนิททุกครั้ง และซักด้วยน้ำร้อนหลังการใช้ 2-3 วัน
- ตุ๊กตา ซักเป็นประจำ หรือใส่ถุงพลาสติกแช่แข็งในตู้เย็น 24 ชั่วโมงเพื่อฆ่าไรฝุ่น
- ผ้าคลุมเตียง ซักทุก 1-2 สัปดาห์ด้วยน้ำร้อน พร้อมอบด้วยความร้อนสูง
- พรม ดูดฝุ่นทุกสัปดาห์และซักหรือทำความสะอาดอย่างหมดจดเดือนละครั้ง
จบทุกปัญหาฝุ่นและภูมิแพ้กับ เครื่องฟอกอากาศอัจฉริยะ จาก Venz คลิก
2. ตากแดดป้องกันไรฝุ่น
นอกจากการซักผ้าแล้ว การตากแดดก็เป็นวิธีสามารถกำจัดไรฝุ่นได้เช่นกัน เพราะแสงแดดจะช่วยลดความชื้นภายในเครื่องนอน ทำให้ไม่เกิดเชื้อรา ซึ่งเป็นอาหารของไรฝุ่น โดยคุณควรตากเครื่องนอนในแสงแดดอย่างน้อย 3-4 ชั่วโมง เพื่อให้ความชื้นระเหยออกไปและทำเป็นประจำสัปดาห์ละ 1-2 ครั้ง
3. ควบคุมความชื้นในอากาศ
เพราะความชื้นคือปัจจัยสำคัญต่อการเจริญเติบโตของไรฝุ่น ดังนั้นการควบคุมความชื้นในอากาศด้วยการใช้เครื่องลดความชื้น (Dehumidifier) พัดลมระบายอากาศ เครื่องวัดความชื้น (Hygrometer) และการเปิดหน้าต่าง จึงช่วยเป็นวิธีที่ช่วยกำจัดไรฝุ่นได้อย่างมีประสิทธิภาพ
4. ใช้เครื่องฟอกอากาศคุณภาพสูง
เครื่องฟอกอากาศ เป็นอีกหนึ่งเครื่องใช้ไฟฟ้าที่ช่วยกรองอนุภาคฝุ่นขนาดเล็ก รวมถึงไรฝุ่นและซากของไรฝุ่นออกจากอากาศ ทำให้อากาศในบ้านสะอาด โดยคุณควรเลือกเครื่องฟอกอากาศที่เหมาะสมกับพื้นที่และการใช้งาน ดังนี้
- เลือกเครื่องที่มีฟิลเตอร์ HEPA (High-Efficiency Particulate Air) ที่สามารถกรองอนุภาคขนาดเล็กได้ถึง 0.3 ไมครอน และควรเปลี่ยนฟิลเตอร์ตามระยะเวลาที่แนะนำ
- เลือกเครื่องฟอกอากาศที่มีขนาดเหมาะสมกับพื้นที่ห้อง โดยคำนวณจาก CADR (Clean Air Delivery Rate)
5. จัดการสิ่งของและเฟอร์นิเจอร์
การจัดการสิ่งของและเฟอร์นิเจอร์ในบ้านอย่างเหมาะสม คือเคล็ดลับการกำจัดไรฝุ่นอย่างมีประสิทธิภาพ โดยคุณควรทำความสะอาดเฟอร์นิเจอร์และสิ่งของด้วยน้ำยาฆ่าเชื้อเป็นประจำ เช็ดฝุ่นด้วยผ้าเปียกแทนการปัดฝุ่นแห้ง และทำความสะอาดพัดลมอย่างสม่ำเสมอ เพื่อป้องกันการสะสมของไรฝุ่นในซอกขนาดเล็ก และลดการกระจายฝุ่นระหว่างเปิดใช้งาน
เคล็ดลับเสริม ช่วยป้องกันและกำจัดไรฝุ่นแบบถาวร
นอกจากการทำความสะอาดทั่วไปแล้ว ยังมีเคล็ดลับเพิ่มเติมที่จะช่วยลดจำนวนไรฝุ่นในบ้าน และป้องกันไม่ให้ไรฝุ่นกลับมาสร้างปัญหาได้อีก ไม่ว่าจะเป็น
- ใช้ผ้าคลุมกันไรฝุ่น ที่ผลิตจากวัสดุพิเศษที่มีรูขุมขนเล็กกว่า 10 ไมครอน
- เลือกหมอนไฟเบอร์สังเคราะห์หรือหมอนลาเท็กซ์ธรรมชาติที่มีคุณสมบัติต้านไรฝุ่น
- ดูแลรักษาพรมและม่านเป็นประจำ หรือใช้มู่ลี่แทนผ้าม่าน
- วางผลิตภัณฑ์ที่ช่วยไล่ไรฝุ่น เช่น น้ำมันหอมระเหยจากยูคาลิปตัส หรือทีทรี (Tea Tree) ผสมน้ำพ่นบริเวณที่เสี่ยงต่อการมีไรฝุ่น
เลือกซื้อ เทคโนโลยีฟอกอากาศ ที่ผสมผสานความมินิมอลอย่างลงตัว ที่นี่
เครื่องฟอกอากาศ Venz ตัวเลือกการกำจัดไรฝุ่นง่าย ๆ
การกำจัดไรฝุ่นในบ้านเป็นเรื่องที่ทุกครอบครัวควรให้ความสำคัญ เพราะนอกจากไรฝุ่นจะเป็นสาเหตุสำคัญที่ทำให้เกิดอาการแพ้ คัดจมูก จาม และระคายเคืองระบบทางเดินหายใจแล้ว ยังสามารถทำให้เกิดปัญหาสุขภาพร้ายแรงอย่างโรคหอบหืดและโรคผิวหนังอักเสบได้อีกด้วย การเลือกใช้เครื่องฟอกอากาศที่มีคุณภาพก็เป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่ช่วยดูแลคุณภาพอากาศภายในบ้าน
สำหรับใครที่กำลังมองหาเครื่องฟอกอากาศยี่ห้อไหนดี เราขอแนะนำเครื่องฟอกอากาศจาก Venz ที่มาพร้อมเทคโนโลยีทันสมัยและการออกแบบที่เหมาะกับทุกพื้นที่ในบ้าน ช่วยกรองฝุ่นละออง เชื้อโรค และสิ่งแปลกปลอมต่าง ๆ รวมถึงไรฝุ่น ให้คุณและครอบครัวได้หายใจอากาศสะอาดปลอดภัยตลอดเวลา
เครื่องฟอกอากาศกำจัดไรฝุ่น รุ่น ALTA
เครื่องฟอกอากาศกำจัดไรฝุ่น Venz รุ่น ALTA ดีไซน์มินิมอลที่ตอบโจทย์การแต่งบ้านสไตล์มินิมอล ด้วยรูปทรงเรียบง่าย สะอาดตา ที่เข้ากับทุกมุมห้องได้อย่างลงตัว มาพร้อมกับเทคโนโลยีการกรองอากาศที่ทันสมัย ด้วยฟิลเตอร์ HEPA H13 ที่สามารถดักจับฝุ่นละอองขนาดเล็กเพียง 0.03 ไมครอน และเทคโนโลยี Negative Ion ที่ช่วยกำจัดมลพิษทางอากาศ ลดกลิ่นไม่พึงประสงค์
ราคา
- ALTA 20 Mini 2,890 บาท
- ALTA 40 Entry 6,190 บาท
- ALTA 60 Performance 8,190 บาท
ช่วยให้บ้านปลอดภัยจากฝุ่นด้วยเครื่องฟอกอากาศรุ่น ALTA จาก Venz คลิก
เครื่องฟอกอากาศกำจัดไรฝุ่น รุ่น ORBIT
เครื่องฟอกอากาศ PM2.5 กำจัดไรฝุ่น Venz รุ่น ORBIT ที่ผสานความสวยงาม ทันสมัย และประสิทธิภาพการทำงานที่ดีเยี่ยมเข้าด้วยกัน ช่วยกรอง PM2.5 และฝุ่นละอองต่าง ๆ ด้วยฟิลเตอร์ HEPA H13 คุณภาพสูง สามารถส่งลมบริสุทธิ์ได้ไกลถึง 3 เมตร เหมาะสำหรับห้องขนาดกลางถึงใหญ่
รายละเอียด
- ครอบคลุมพื้นที่ขนาด 35-50 ตร.ม.
- ขนาดวงแหวนระบายอากาศ 16 นิ้ว
- มีฟังก์ชันการเชื่อมต่อ Application บนสมาร์ตโฟน
- แรงดันไฟฟ้า 24V DC 50/60Hz
- กำลังไฟฟ้า 35W
- กระแสไฟฟ้า 1.0A
- ขนาด W36 x L36 x H120 cm
- น้ำหนัก 6.3 kg
ราคา 8,490-8,990 บาท
หายใจสบาย อากาศสดชื่น เลือกเครื่องฟอกอากาศ Venz รุ่น ORBIT ที่นี่
FAQ
ไรฝุ่นมีอายุกี่วัน?
ไรฝุ่นมีอายุขัยประมาณ 2-3 เดือน แต่สามารถสืบพันธุ์ได้อย่างรวดเร็ว ไรฝุ่นตัวเมียสามารถวางไข่ได้วันละ 1-2 ฟอง โดยไข่จะฟักออกเป็นตัวอ่อนในระยะเวลา 1-3 สัปดาห์ ขึ้นอยู่กับอุณหภูมิและความชื้นในห้อง
ผงซักฟอกฆ่าไรฝุ่นได้หรือไม่?
ผงซักฟอกทั่วไปไม่สามารถฆ่าไรฝุ่นได้ แต่การซักด้วยน้ำร้อนอุณหภูมิ 60 องศาเซลเซียสขึ้นไปจะฆ่าไรฝุ่นได้ และคุณควรเลือกใช้ผงซักฟอกที่มีเอนไซม์พิเศษ หรือสารสกัดจากธรรมชาติที่ช่วยกำจัดไรฝุ่น รวมถึงแช่ผ้าด้วยน้ำร้อนก่อนซักและตากแดดหลังซัก
วิธีเช็ดฝุ่นไม่ให้ฟุ้ง?
ใช้ผ้าไมโครไฟเบอร์เปียกน้ำเล็กน้อยแทนการใช้ผ้าแห้ง ซึ่งช่วยดักจับฝุ่นไว้ได้ดีกว่า โดยเช็ดในทิศทางเดียวกันแทนการเช็ดไปมา และใช้น้ำยาทำความสะอาดที่มีคุณสมบัติดักจับฝุ่น
มีวิธีไล่ตัวไรฝุ่นอย่างไรบ้าง?
ใช้น้ำมันหอมระเหย เช่น ยูคาลิปตัส ลาเวนเดอร์ หรือทีทรี ผสมน้ำพ่นบริเวณที่เสี่ยงใช้เกลือหยาบโรยบนพรมค้างคืนแล้วดูดออก และรักษาความสะอาดอย่างสม่ำเสมอ เพื่อลดจำนวนไรฝุ่นให้น้อยลง
เลือกเครื่องใช้ไฟฟ้ามินิมอล คุณภาพเยี่ยม ดีไซน์สวย เข้ากับทุกสไตล์ได้ที่
Website: https://venz.co.th/style/
Shopee: https://shopee.co.th/shop/324824909
